ในหนังสือเรื่อง 10 วิธีทำบุญโดยไม่ต้องใช้เงินนี้ ผมได้เขียนและรวบรวมเอาวิธีการต่าง ๆ โดยที่ไม่ได้เอาเงินหรือวัตถุสิ่งของมาเป็นตัวตั้ง แต่เน้นการทำบุญแบบที่ชาวพุทธผู้รู้ลึก รู้จริงเขาทำกัน คือ การทำบุญด้วยใจล้วน ๆ เอาจิตใจของเรานี้แหละไปทำบุญ เพราะคนส่วนใหญ่ มีความเข้าใจผิดกันเป็นอย่างมากว่า จะทำบุญก็ต้องมี “เงิน” เอาเงินใส่ตู้บริจาค เอาเงินไปสร้างพระพุทธรูป เอาเงินไปทอดกฐิน เอาเงินไปทอดผ้าป่า เอาเงินไปซื้ออาหารถวายพระ อะไรก็ เงิน เงิน เงิน !!! แล้วถ้าไม่มีเงิน ก็คงทำบุญไม่ได้แน่เลย ต้องรอให้มีเงินก่อน ถึงจะมีโอกาสได้ทำบุญ ถ้าไม่มีเงินทำบุญแล้วเราจะได้บุญได้อย่างไรกันละทีนี้ “อยากทำบุญจังแต่ตังค์ไม่มี” ไม่จริงเลย ไม่ได้เกี่ยวกันเลย ไม่มีเงินก็ทำบุญได้ บางเรื่อง บางประเด็น ทำบุญโดยไม่ต้องใช้เงิน ดีกว่าทำบุญโดยใช้เงินเสียอีกในหลาย ๆ อย่าง ถ้าคุณอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว วิธีคิดของการทำบุญ กับเงินก็จะเปลี่ยนไป แล้วเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากขึ้นด้วย คุณจะเดินเข้าวัดไปทำบุญโดยที่ไม่ต้องมีเงินติดตัวไปแม้แต่บาทเดียวก็ยังได้เลย เพราะสิ่งที่คุณมี ก็คือ องค์ความรู้ในการทำบุญที่เป็น สัจธรรมจริง ๆ อย่างถูกต้อง แล้วก็เดินออกมาจากวัด โดยที่ได้บุญติดตัวมาแบบเต็ม ๆ ด้วย ถ้าเป็นภาษาวัยรุ่น เขาก็เรียกว่า “อิ่มจังตังค์อยู่ครบ” แต่ถ้าจะทำแบบที่ผมว่าได้ก็จะต้องศึกษาเรียนรู้ให้เข้าใจกันเสียก่อนว่า “บุญ” แท้จริงคืออะไรกันแน่ รูปร่างหน้าตาของบุญเป็นอย่างไร แล้วที่ว่าทำบุญเอาบุญไปเก็บไว้ที่ไหน แล้วทำไมถึงสามารถใช้ใจแทนเงินได้ในการทำบุญ แล้วเงินไม่สำคัญเหรอในการทำบุญ คำถามและข้อสงสัยในประเด็นเหล่านี้ ในหนังสือเรื่อง 10 วิธีทำบุญ โดยไม่ต้องใช้เงินเล่มนี้ มีคำตอบไว้รองรับหมดแล้ว ขอเพียงคุณค่อย ๆ เปิดอ่านทำความเข้าใจในเนื้อหา และรายละเอียด ความเข้าใจ ความกระจ่างแจ้งก็จะมาบังเกิดกับคุณผู้อ่านเอง ในส่วนของผมนั้น สนับสนุนการทำบุญทั้งสองประเภทเท่า ๆ กัน คือ 1. ทำบุญแบบใช้เงิน 2. ทำบุญแบบไม่ใช้เงิน แต่จะดีกว่าไหมถ้าคุณผู้อ่าน มีความรู้ทั้ง 2 ด้าน ไม่ว่าจะด้านใช้เงิน และด้านไม่ใช้เงิน เพื่อให้เรามีรูปแบบในการทำบุญที่หลากหลายมากขึ้น จะได้นำไปสอนลูกสอนหลานได้ ไม่ใช่ว่ารู้แค่เอาเงินใส่ในตู้บริจาคแล้วก็จบ หลังจากนั้น ไม่รู้แล้วว่ากระบวนการทำงานของบุญ จะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป มีอานิสงส์อะไรบ้าง จากการได้ทำบุญในครั้งนี้ จริง ๆ แล้ว บุญและกุศลก็มีความแตกต่างกันในหลาย ๆ มิติ เพียงแต่เราชอบพูดกันติดปากว่าไปทำบุญทำกุศลมา มันก็เลยทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ก็เป็นเรื่องเดียวกัน อันเดียวกัน สิ่งเดียวกัน ป่าวเลย คนละเรื่อง คนละอัน มีรายละเอียดที่แตกต่างกันอยู่เยอะเลย ผมมีอธิบายรายละเอียดเรื่องเหล่านี้ไว้ให้หมดแล้ว เพียงแค่คุณผู้อ่านเข้าไปทำความเข้าใจก็จะสิ้นข้อสงสัยในทันที สุดท้ายนี้ ขอให้คุณผู้อ่านทำบุญตามที่ใจปรารถนา จะใช้เงินหรือไม่ใช้เงินก็แล้วแต่ศรัทธาของตัวคุณผู้อ่านเอง แต่ถึงอย่างไร “บุญ” ก็เป็นของดี ให้หมั่นทำกันให้เยอะ ๆ ทำทุก ๆ วัน ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะมีแต่เพียงแค่บุญเท่านั้นที่ช่วยเราได้ ส่วนลูกเมีย คนในครอบครัวไม่มีใครช่วยเราได้หลังจากที่เราได้จบชีวิตลงไปแล้ว ก็มีแต่ “บุญ” เท่านั้นที่ค้ำจุนดวงจิตของเราให้ไปสู่สุขคติภูมิได้อย่างแท้จริง ขอขอบพระคุณมากครับที่อ่านจนจบ สมชาย เชิดกลาง ผู้เขียนและเรียบเรียง