ด้วยความที่ชาดกและพุทธประวัติ มีลักษณะคล้ายนิทานหรือนิยายแฟนตาซี ทำให้การศึกษาพุทธธรรมเป็นเรื่องสนุกเข้าถึงได้ง่ายทุกเพศทุกวัย ได้เห็นตัวอย่างกรณีศึกษา ได้ทราบถึงกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิดของบุคคลต่างๆ ได้แก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและบุคคลผู้เกี่ยวข้องทั้งทางบวกและทางลบ ด้วยความชื่นชอบงานเขียนประเภทนิทานกลอนหรือนิยายกลอนตามแบบอย่างครูกลอนเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ผู้เขียนจึงเอาชาดกและพุทธประวัติมาเรียบเรียงใหม่ตามแนวทางดังกล่าว “พุทธศิลป์คำกลอน ๔” เล่มนี้ประกอบด้วยชาดก ๔เรื่อง ๑. มหาเวทย์เสกมะม่วง(อัมพะชาดก) กล่าวถึงโทษของการลบหลู่ครูอาจารย์ผู้ให้วิชาความรู้ เป็นทางแห่งความเสื่อม ๒. วงศาวานร(ตะโยธรรมชาดก) กล่าวถึงความเป็นผู้มีปัญญาและความกล้าหาญ สามารถแก้ปัญหาต่างๆจนสำเร็จลุล่วงได้ ๓. กวางกุรุงคะ(กุรุงคมิคชาดก) กล่าวถึงภัยของความโลภ ไม่มีลาภผลใดได้มาโดยง่ายดาย สำนวน “ลูกไม้” ที่หมายถึงเล่ห์เหลี่ยมหลอกล่อ กลโกง มาจากชาดกเรื่องนี้ สามเรื่องนี้เป็นเรื่องราวการผูกความอาฆาตแค้น และความขัดแย้งของพระเทวทัตที่มีต่อพระพุทธเจ้าในอดีตชาติ ๔. ยอดม้าอาชาไนย(โภชาชานียชาดก) กล่าวถึงประโยชน์ของการตั้งอยู่ในความเพียร แม้บาดเจ็บเจียนตายก็ไม่คลายความเพียร จนทำการใหญ่ได้สำเร็จลุล่วง ดุจความเพียรของม้า “โภชาชานียะ” ทั้งสี่เรื่องเขียนด้วยฉันทลักษณ์กลอนไทยอ่านเข้าใจง่าย ความยาวรวม ๒๙๑ บทกลอน หวังว่าผู้อ่านท่านจะได้รับความสนุกและประโยชน์ข้อคิดจากเนื้อเรื่อง ผ่านท่วงทำนองของกลอนไทย