อัสนี รู้สึกเหมือนถูกโชคชะตากลั่นแกล้ง เมื่อหญิงสาวที่เป็นรักแรกพบกลับกลายเป็นน้องสาวของศัตรูที่เขาไม่อาจมอบหัวใจให้ได้ ขณะที่ โฉมงาม ผู้ไม่รู้เรื่องราวอันใดในอดีตเลย ต้องถูกรับเคราะห์กรรมในสิ่งที่เธอไม่เคยได้ก่อ โดยมีการตายของพี่สาวอัสนีเป็นปริศนาคอยให้ไขคำตอบ สงครามระหว่างเขาและเธอมีเดิมพันเป็นหลานชายสุดที่รักที่จะเป็นกามเทพเชื่อมโยงให้ทั้งสองได้กลับมารักกันอีกครั้ง ท่ามกลางความแค้นที่ปะทุขึ้นอย่างหนักหน่วง ++++++++ “โฉมงาม เปิดประตูให้ผมเดี๋ยวนี้นะโฉมงาม” น้ำเสียงแสนคุ้นเคยที่ดังขึ้นลดระดับความหวาดประหวั่นพรั่นพรึงภายในหัวใจเธอลงได้หลายระดับ เธอกดตัดสายจากหมายเลขฉุกเฉิน แต่ก็ยังไม่วางใจเสียทีเดียว น้ำเสียงเขาดูเมามายไร้สติ “ผมบอกให้เปิดประตูไงโฉม ผมจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าคุณยังไม่เปิด ผมจะพังประตูเข้าไปแล้วนะ” เธอสะดุ้งเพราะคำพูดข่มขู่ของคนเอาแต่ใจ ร่างอรชรเขยิบเข้าไปใกล้บานประตู ยกมือกุมกันอยู่บริเวณหน้าอกอย่างลุ้นระทึก หัวใจอ่อนไหวเต้นแรงด้วยความคิดถึง แต่ก็ต้องลืมมันไปเสียไม่ได้ “หนึ่ง... สอง... สาม...” เขาทุบประตูแรงขึ้นเมื่อนับเลขครบตามจำนวน “กรี๊ด...” เธอยกมือทาบริมฝีปาก เสียงทุบประตูเงียบลง “ผมรักคุณนะโฉม ได้ยินไหมว่าผมรักคุณ” เขากำลังเมาและพูดอย่างสิ้นคิด “นางฟ้าของผม ถ้าคุณยังไม่เปิดประตูผมจะร้องเพลงอยู่ตรงนี้จนกว่าคุณจะรำคาญ” เธอหน้าแดงจัด หลุดยิ้ม หลังขวัญผวาไปได้ไม่นาน “โฉมเอยโฉมงาม อร่ามแท้แลตะลึง ได้เจอครั้งหนึ่งเสน่ห์ซึ้งตรึงใจ ครั้งเดียวได้ชมสมัครภิรมย์รักใคร่ พันผูกใจไม่ร้างรา น้ำคำลือเลื่องไปทั่วทั้งเมืองนานมา ชมว่าวิไลงามตาดังเทพธิดาองค์หนึ่ง” “พอได้แล้วคุณสายฟ้า ไม่อายคนอื่นบ้างหรือไง” โฉมงามตะโกนออกไป “จนกว่าคุณจะเปิดประตูให้ผม” “ฝันไปเถอะค่ะ” เธอบังคับให้ตัวเองหุบยิ้มไม่ได้ เช่นเดียวกับที่ไม่สามารถบังคับให้หัวใจเลิกรักเขา น้ำเสียงในยามนี้ของอัสนีฟังดูอ่อนโยน ขี้เล่น เขาขับร้องเพลงที่ไม่ได้เพราะพริ้งเท่าต้นฉบับเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ “มาเห็นเต็มตาพลอยพารำพึง ติดตรึง ชวนให้คะนึงอาจิณ” บานตูเบิกกว้างออก โฉมงามส่ายหน้านิดๆ ให้กับบุรุษแสนสง่างามที่ไม่หลงเหลือภาพนั้นตรงหน้าเธอ เขาเหมือนเด็กหนุ่มมีปัญหา ดื่มเมาหัวราน้ำจนไม่เหลือสภาพของผู้นำ “คุณสายฟ้า” เธอพึมพำ เสี้ยวหนึ่งของหัวใจอยากกังขังจิตวิญญาณของเขาไว้ในสภาพนี้ตลอดไป อัสนีโผเข้ามาสวมกอดเธอแน่น "ผมรักคุณโฉมงาม"