หน้าที่ของคำนาม ( Function of Noun) คำนามทำหน้าที่ที่สำคัญๆอยู่ 5 อย่าง คือ Example (อ่านแล้วสังเกตตำแหน่งของคำนามให้ดี) Doctors have discovered a new way to help sick people. (Subject of sentence) หมอได้ค้นพบวิธีการใหม่ที่จะช่วยรักษาผู้ป่วย (doctors เป็น Noun ทำหน้าที่เป็น Subject) John washed the car. จอห์นล้างรถ (car เป็น Noun อยู่หลักกริยาจึงทำหน้าที่เป็น object) The puppy has chewed on the bone. (Object of a preposition) ลูกหมาได้เคี้ยวกระดูก (bone เป็น Noun อยู่หลัง on ซึ่งเป็นคำ preposition ดังนั้น bone จึงทำหน้าที่เป็นกรรมของ on) Her mother will become the school librarian. (Subject Complement) แม่ของหล่อนจะมาเป็นเจ้าหน้าที่ห้องสมุดโรงเรียน (the school librarian อยู่หลัง become ซึ่งเป็นกริยาเชื่อมคำแบบ V. to be จึงทำให้คำนามที่อยู่หลังมันเป็นส่วนขยาย ไม่ใช่กรรม) We elected you team leader. (Object complement) พวกเราเลือกคุณเป็นผู้นำทีม ( team เป็น Noun แต่เรียงไว้ข้างหน้า Noun อีกตัวคือ leader ดังนั้น คำนามตัวแรกจะทำหน้าที่เป็นส่วนขยายให้กับคำนามตัวที่ตามหลัง เป็นนามซ้อนนาม ทำหน้าที่เหมือนเป็นคำ adjective ) The bedroom walls are all oak panels. (Subject Complement) ผนังห้องนอนทำด้วยไม้โอ๊คทั้งหมด (oak เป็นคำนามที่ทำหน้าที่ขยาย panels ทั้ง oak และ panels เป็นคำนามทั้งคู่ เรียงอยู่หลัง are ซึ่งเป็น V. to be ดังนั้น คำนามสองคำนี้จึงเป็นส่วนขยายของ bedroom) สรุป Noun ต้องจำเรื่องเอกพจน์ พหูพจน์ ลักษณะที่สังเกตได้ และหน้าที่ของมันให้ดี ถ้าหากนักเรียนจำไม่ได้อย่างแม่นยำ การที่เราจะไปทำข้อสอบ Cloze Test, Reading comprehension, และ error จะเกิดปัญหาตามมา จึงขอให้นักเรียนจำให้ดี 1) ทำหน้าที่เป็นประธานในประโยค (Subject of sentence) นิยมเรียงไว้ต้นประโยค 2) ทำหน้าที่เป็นกรรมของกริยา (Object of verb) เรียงไว้หลัง Verb 3) ทำหน้าที่เป็นกรรมของบุพบท (Object of a preposition) เรียงไว้หลัง preposition 4) ทำหน้าที่ขยายประธานทำให้ประธานชัดเจนยิ่งขึ้น เรียกว่า Subject Complement คือ ส่วนขยายประธาน จะเรียงไว้หลัง Verb to be และ Linking Verb 5) ทำหน้าที่ขยายกรรม เรียงไว้หลังกรรม เรียกว่า Object complement 6) ทำหน้าที่ซ้อนคำนาม เรียกว่า Appositive