กรรมตามสมอง
เพิ่มไปรายการที่ชอบ
กรรมตามสมอง
อ่านเล่มนี้ ฟรี!
เพียงมีแพ็กเกจ Buffet Premium
ราคา
ซื้อฉบับนี้ : 60.00 ฿
เกี่ยวกับ
"สิ่งแรกที่คุณควรรู้เกี่ยวกับสมองก็คือ ณ ขณะนี้สมองของคุณกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของตัวมันเองอยู่! คุณไม่ได้ใช้หัวใจ ตับ ไต ไส้ หรือพุงในการคิดหรือทำความเข้าใจ และหากตอนนี้มีคนนำสนามแม่เหล็กกำลังสูง หรือเครื่องมือที่เรียกว่า TMS (Transcranial Magnetic Stimulation) มาจ่อใกล้ศีรษะเพื่อรบกวนการทำงานของสมองคุณ ตัวหนังสือทุกตัวจะเป็นเพียงลายขีดเขียนที่ไร้ความหมาย เพราะสมองจะไม่สามารถประมวลสิ่งต่างๆ จากตัวอักษรเหล่านี้ได้ หรือถ้าแม่เหล็กนั้นถูกนำมาจ่อใกล้สมองส่วนที่เรียกว่า Occipital Lobe ซึ่งทำหน้าที่ในการประมวลภาพจากจอประสาทตา คุณก็จะมองอะไรไม่เห็นเลยทั้งๆ ที่ยังลืมตาอยู่!
ระหว่างที่คุณกำลังอ่านตัวหนังสือของบรรทัดนี้ เส้นประสาทกว่า 1 แสนล้านเส้นกำลังสื่อสารกันอย่างขะมักเขม้นเพื่อสร้างภาพ ความจำ ความเข้าใจ การคิดต่อยอด จินตนาการ ฯลฯ เพื่อให้จิตของคุณสามารถรับรู้ได้ สมองมีความมหัศจรรย์มากมายเกินกว่าจะสาธยายได้หมด แต่ถ้าถามว่า อะไรคือความมหัศจรรย์ที่สุดเกี่ยวกับสมอง ก็คงจะต้องตอบว่า...
“โครงสร้างทุกส่วนและเส้นประสาททุกเส้นในสมอง
สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามความคิด คำพูด และการกระทำของเราเอง!”
นอกจากนั้น สิ่งที่เราได้เห็น ได้ชิม ได้ยิน ได้กลิ่น ได้สัมผัส รวมถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆ รอบตัวเรา ล้วนมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของสมองเราทั้งนั้น
ใช่แล้ว... สมองคือเครื่องมือสำคัญที่สุดที่คอยออกแบบชีวิตและกำหนดโชคชะตาของเรา แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือความจริงที่ว่า ทุกๆความคิด ทุกๆคำพูด และทุกๆการกระทำ ก็ล้วนมีส่วนสำคัญในการกำหนดโครงสร้างของสมองเราด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนั้น หลายคนคงไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วเนื้อสมองของเรามีความยืดหยุ่นไม่ต่างไปจากเนยแข็งหรือดินน้ำมันเลย ดังนั้นมันจึงถูก ""ปั้น"" ได้อย่างง่ายดายมาก หากเรารู้วิธี...
เพื่อให้เราเข้าใจความสำคัญและความสัมพันธ์ระหว่างสมองกับจิตใจได้ดียิ่งขึ้น เรามาลองศึกษากรณีตัวอย่างจากสมองของบุคคลคนหนึ่งที่คนทั้งโลกรู้จักกันดีกว่า...
“น้ำที่ทำให้เรือจมนั้น คือ น้ำที่อยู่ในเรือนั่นเองฉันใด
อุปสรรคที่แท้จริงและน่ากลัวที่สุด ก็คือ อุปสรรคในตัวของตัวเองฉันนั้น”
“โชคชะตา ฟ้าลิขิต” อย่างนั้นหรือ... ผิดแล้วล่ะ ถ้าจะให้ถูกต้องบอกว่า “โชคชะตา สมองข้าลิขิต” ต่างหาก เพราะมนุษย์ทุกคนเป็นสถาปนิกของสมอง และเป็นผู้สร้างชะตากรรมของตัวเองอย่างแท้จริง โดยข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุดในการออกแบบสมองของคน “ธรรมดา” มาจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยลอนดอน (University College London) โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยดังกล่าวได้เกณฑ์ประชากรทั่วไปในกรุงลอนดอนมาวัดขนาดของสมองส่วน ฮิปโปแคมปัส (Hippocampus = ศูนย์บัญชาการความทรงจำ) และนำไปเปรียบเทียบกับฮิปโปแคมปัสของคนขับรถแท็กซี่ โดยนักวิจัยสันนิษฐานว่า ฮิปโปแคมปัสของคนขับรถแท็กซี่จะมีขนาดใหญ่กว่าคนธรรมดา เนื่องจากกรุงลอนดอนมีเส้นทางที่ซับซ้อนมาก คนขับรถแท็กซี่จึงต้องใช้ความทรงจำเยอะกว่าคนปกติ
ผลวิจัยออกมาเป็นจริงดังคาด ฮิปโปแคมปัสของคนขับรถแท็กซี่มีขนาดใหญ่กว่าของคนทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจดจำพื้นที่ (Spatial Memory) แต่ที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ นักวิจัยได้ขยายผลงานอันโด่งดังนี้ต่อไป โดยการวัดขนาดฮิปโปแคมปัสของคนขับรถเมล์ในกรุงลอนดอนด้วย ซึ่งผลปรากฏว่า คนขับรถเมล์มีขนาดฮิปโปแคมปัสเท่ากับคนปกติ เนื่องจากคนขับรถเมล์มีเส้นทางการขับรถเดิมๆ พวกเขาจึงไม่ต้องใช้ความจำมากเท่ากับคนขับรถแท็กซี่!
“สมองคืออวัยวะที่ถูกออกแบบมาให้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากประสบการณ์
มากกว่าอวัยวะอื่นใดในร่างกายทั้งหมด”
-ดร.ริชาร์ด เจ. เดวิดสัน (นักประสาทวิทยา)-
ความยืดหยุ่นของสมอง (Neuroplasticity) ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เฉพาะกรณีของคนขับรถแท็กซี่และคนขับรถเมล์เท่านั้น สมองส่วนที่ใช้ประมวลการมองเห็น (Occipital Lobe) ของคนตาบอด ก็สามารถแปรสภาพไปใช้ประมวลเสียงแทนได้เช่นกัน คนตาบอดหลายคนจึงเอาไม้เท้าเคาะพื้นหรือตีวัตถุรอบกายเพื่อให้เกิดเสียงสะท้อน แล้วใช้ประสาทสัมผัสทางเสียงที่เฉียบคมสร้างมโนภาพของสิ่งแวดล้อมจากเสียงสะท้อนดังกล่าว พวกเขาจึงสามารถ “มองเห็น” ได้ด้วยเสียง! ภาษาอังกฤษเรียกกระบวนการนี้ว่า เอคโคโลเคชัน (Echolocation) ซึ่งเป็นวิธีที่ค้างคาวใช้ในการบินในถ้ำที่มืดสนิทโดยไม่ชนหินงอกหินย้อยนั่นเอง
"
รายละเอียด
ISBN : 978-616-7036-95-3
วันวางขาย :
จำนวนหน้า : 283 หน้า
ประเภทไฟล์ : PDF
ขนาดไฟล์ : 41.53 MB
ประเทศ : TH
ภาษา : Thai
จากสำนักพิมพ์ DMG Books
กำลังโหลด ...