เรื่องราวของชายวัย ยี่สิบเจ็ด ปีคนนี้เริ่มต้นจากการว่างงานมาเป็นเวลานาน แม้ว่าเขาจะพยายามหางาน แต่เขากลับเผชิญกับการถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าและพยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้งานที่มั่นคงด้วยความหงุดหงิดกับชีวิตในเมืองและการหางานอยู่ตลอด เวลาเขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อกลับคืนสู่ราก เหง้าของเขาในต่างจังหวัด ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างเส้นทางใหม่ เขาจึงเลือกที่จะเริ่มต้นอาชีพเกษตรกรรม การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากวิถีชีวิตในเมืองเดิมของเขา แต่เขายินดีที่จะยอมรับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าเขาตระหนักดีว่าการทำฟาร์มไม่เพียงแต่ให้แหล่งรายได้เท่านั้น แต่ยังให้โอกาสแก่วิถีชีวิตที่มีความหมายและยั่งยืนอีกด้วยในขณะที่เขาตั้งรก รากอยู่ในสภาพแวดล้อมชนบทแบบใหม่เขาก็ยอมรับการก้าวที่ช้าลงและเชื่อมโยงกับผืนดิน เขาเรียนรู้ความซับซ้อนของการทำฟาร์ม ได้รับความรู้จากเกษตรกรผู้มีประสบการณ์ และหมกมุ่นอยู่กับงานที่จำเป็นในการเพาะปลูกพืชผลและเลี้ยงปศุสัตว์ แม้ว่าช่วงการเรียนรู้จะสูงชันแต่เขาได้พบกับความสมหวังในการทำ งานทางกายภาพและความเชื่อมโยงโดยตรงกับผลของการทำงานหนักของเขาเอง เมื่อเวลาผ่านไป ความพยายาม ของเขาเริ่มเกิดผล เขาค้นพบความสุขและความพึงพอใจจากการพึ่งตนเอง ปลูกอาหารของตนเอง และหาเลี้ยงตนเอง และชุมชนด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่ายนี้เขาค้นพบความรู้สึกถึงจุดประสงค์ที่หลบเลี่ยงเขาไปในโลกธุรกิจ ยิ่งกว่านั้นการกลับมาต่างจังหวัดทำให้เขาสามารถสร้างและกระชับความผูกพันกับครอบครัวได้การสนับสนุนและแบ่งปันประสบการณ์ทำให้รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของและเติมเต็มที่เขาพลาดไปในช่วงเวลาที่เขาจากไป แม้ว่าการตัดสินใจเป็นอีธานจะไม่ใช่เรื่องท้าทาย แต่ชายหนุ่มคนนี้ก็พบกับความปลอบใจและความสำเร็จในการเปิดรับวิถีชีวิตใหม่ผ่านการทำงานหนัก ความอุตสาหะ และการสนับสนุนจากคนที่เขารัก เขาฝ่าฟันอุปสรรคและค้นพบความรู้สึกใหม่ของความสุขและจุดมุ่งหมาย