แรงบันดาลใจที่สำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ให้ผู้เขียนต้องการเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาก็คือ ความต้องการที่จะกระตุ้นเตือนให้ทุกๆท่านที่ยังไม่ได้รู้จักและเข้าใจกับอริยสัจสี่และธรรมะข้ออื่นๆที่สามารถช่วยให้เราพ้นไปจากความทุกข์ได้อย่างแท้จริงนั้น ได้เร่งมือหันมาให้ความสนใจและรีบทำความเข้าใจกับธรรมะนี้ให้ได้เร็วและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่วันสุดท้ายของชีวิตจะมาถึง เพราะมิฉะนั้นแล้วก็อาจจะต้องประสบกับความทุกข์อย่างแสนสาหัสดังบุคคลในตัวอย่างหลายท่านที่ผู้เขียนได้นำเรื่องราวจากชีวิตจริงของท่านมาเขียนในหนังสือเล่มนี้ ทั้งนี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายๆท่านที่ยังไม่ได้เข้าใจถึงประโยชน์และคุณค่าอันยิ่งใหญ่ของธรรมะว่าสามารถที่จะช่วยให้เราพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงได้จริง ซึ่งหมายรวมถึงความทุกข์ในช่วงสำคัญที่สุดของชีวิตคือช่วงเวลาที่เราจะต้องจากลาโลกใบนี้ไปด้วย เพราะธรรมะนั้นจะช่วยขัดเกลาจิตใจที่วุ่นวายและยุ่งเหยิงของเราให้สะอาดและสงบลงได้ ผลดีที่จะตามมาคือเราจะมีแต่ความจำ(สัญญา)ที่ดีและถูกต้องนี้อยู่ในจิต ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่จิตดวงสุดท้ายจะต้องออกจากร่างไป จิตก็จะสามารถไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดีตามสัญญาที่ดีและถูกต้องที่เราได้สั่งสมมันเอาไว้ในจิต ตรงกันข้ามถ้าเราไม่ได้เคยใส่สัญญาที่ดีและถูกต้องเหล่านี้เอาไว้ในจิตมาบ้างเลย จิตดวงสุดท้ายก็ย่อมที่จะต้องไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ไม่ดี ที่มีแต่ความทุกข์ตามสัญญาที่ผิดๆที่ถูกสะสมอยู่ในจิตนั้นด้วยเช่นกัน ผู้เขียนหวังใจว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยกระตุ้นเตือนท่านทั้งหลายที่ยังประมาท ไม่ได้เร่งมือที่จะทำความเข้าใจในธรรมะอันทรงคุณค่า เช่น อริยสัจสี่ มรรคมีองค์ 8 ปฏิจจสมุปบาท และหัวข้อธรรมที่สำคัญอื่นๆ ให้ได้เร่งมือหันมาทำเข้าใจในสิ่งอันทรงคุณค่ามากนี้ให้ได้ทันก่อนที่จะต้องไปพบเจอกับความทุกข์ที่หนัก จนไม่สามารถที่จะมาทำความใจกันได้เพราะสังขารและสภาวะแวดล้อมต่างๆมันไม่เอื้ออำนวยกันเสียแล้ว และเพื่อที่จะสามารถน้อมนำเอาธรรมะนี้ไปใช้ในการดำรงชีวิตอย่างถูกต้อง ถูกวิธี จนสามารถอยู่เป็นสุขและสงบเย็นกันได้อย่างแท้จริงด้วยกันทุกๆท่านเทอญ ด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจ จันทนา นิพพานา