สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสินค้าที่จะนำมาขายออนไลน์ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเพราะการขายสินค้าออนไลน์นั้นสามารถสร้างรายได้ให้กับคุณอย่างไม่หยุดนิ่งหากคุณตั้งใจขายสินค้าอย่างจริงจังและตั้งใจ เพราะเว้บไซต์ข่าวต่างประเทศรายงานผลวิจัยบริษัทอีมาร์เก็ตเตอร์ ระบุว่าภาพรวมของตลาด e-Commerce ทั่วโลกคาดว่าปี (2557) "เอเซีย แปซิฟิก" จะแซงหน้าสหรัฐอเมริกากลายเป็นตลาด e-Commerceที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนอกจากนี้ในช่วง (ปลายปี 2556) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้เผยข้อมูลผลสำรวจการเปิดให้บริการ 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรต์ในประเทศไทยช่วยผลักดันตลาด e-Commerce หรือการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตโดยผ่านแทปเล็ตและสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระแส e-Commerce นั้นน่าจับตามองมากขนาดไหนและจำทำให้ทั้งสองฝ่ายทั้งผู้ซื้อและผู้ขายได้รับผลประโยชน์และความสะดวกสบายอย่างเท่าเทียมกัน หากคุณได้รู้แหล่งขุมทรัพย์กับการทำ e-Commerce ก่อนใครและเทคนิคกลยุทธการขายสินค้าทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้ดังนั้นหากคุณเริ่มเรียนรู้ก่อนและเริ่มเปิดร้านค้าออนไลน์ขายสินค้าก่อนใครผมเชื่อว่าคุณก็จะมีรายได้เข้ากระเป๋าก่อนใคร แต่ทว่าก็มีผู้ที่ได้ขายสินค้าออนไลน์อยู่บ้างแล้วนานนับ 10 ปี แต่ก็มีผู้ที่ล้มเลิกกับการขายสินค้าออนไลน์อยู่มากเช่นเดียวกัน ดังนั้นคุณอาจจะเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังจะริเริ่มขายสินค้าออนไลน์ให้เป็นรายได้หลักโดยในผู้ขายบางคนบางร้านค้ารายได้ก็อาจจะมากกว่างานประจำที่ทำอยู่ก็มีให้เห็นอยู่หลายคนหลายร้านค้าเช่นเดียวกัน และในเว็บบอร์ดสังคมแห่งใหญ่สุดของไทยคือ pantip.com มีผู้ที่ทำการขายสินค้าออนไลน์หรือe-Commerce นั้นมีรายได้ต่อเดือนถึงหลัก ล้าน! บาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขายสินค้าออนไลน์หากคุณจับจุดของตลาดได้อย่างถูกต้องและตรงกลุ่มเป้าหมายคุณก้สามารถสร้างรายได้เข้ากระเป๋าคุณเองได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งบางคนขายจนสามารถทำกำไรได้อย่างลงตัวและต่อเนื่องจนถึงขั้นลาออกจากงานประจำและหันมาขายทุ่มเทให้กับธุรกิจ e-Commerce อย่างเต็มตัว 100%