ความลับในการทำงานในโฮสเทล มีหลายเรื่องที่เจ้าของอยากรู้ตอนเลือกพนักงาน ว่าพนักงานแบบไหนดี? พนักงานโฮสเทล ต้องติดต่อสื่อสารให้ข้อมูลประจำโต๊ะทำการ อย่างน้อยการประจำการอย่างต่ำ 2 ชม.ที่ต้องมีพนักงานอยู่ตรงที่ประจำหรือ Front desk ช่วงเวลาที่ขอเลยนะ คือ 8.00-10.00 และ 17.00-22.00 อ้าวไม่ต้องตลอดเวลา 24 ชั่วโมงเหรอ? เดี๋ยวไปอ่านกันในเล่ม พนักงานต้องเป็นคนที่มีความอดทน มีกาลเทศะ อันนี้สำคัญมาก เลยภาษาอังกฤษใช้คำว่า “TACT” ที่หมายความถึงการที่มีทักษะ เอิ่มม ทักษะอะไรอ่ะ ไม่เข้าใจจจจจ? คุณสมบัติของพนักงานต้อนรับที่เขียนว่า “สื่อสารได้” และ “เลิศศศศ “มันคืออะไร ?ใบ้นะ ศิลปะการประยุกต์ภาษา” จำไว้นะฮระ! เราไม่ได้กำลังต้องการพนักงานโฮสเทลเพื่อประกาศข่าวราชสำนักภาคภาษาอังกฤษนะ บางทีการป้อนคำถามก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเก่งภาษาอังกฤษมาแค่ไหน แต่ถ้าเราจะเลือกรับพนักงานแล้วหล่ะก็ หัวใจคือ คุณต้องสื่อสาร! ไม่ใช่โชว์ทักษะภาษาอังกฤษ หรือคลังศัพท์ยาก แต่เรามีความลับ เพราะในโฮสเทล เราเจอแขกหลากหลายชาติ แล้วสำเนียงก็ไม่คงที่อะไรก็ไม่แน่นอน ยิ่งพูดกันผ่านโทรศัพท์นะ ปวดตับมากกก แล้วทำยังไงอ่ะ?กับการสื่อสารร้อยแปดสำเนียงนั่น เรามีเคล็ดลับให้ด้วยหล่ะ วิธีเอาตัวรอดของพนักงานโฮสเทล โดยเฉพาะพี่แขกไปฟังกัน พนักงานเพศไหนดี? ก่อนไปเรื่องเพศอยากบอกว่า โฮสเทลเล็กๆ น่ารักๆ สิ่งที่แขกอยากได้คือ คือ เจ้าของ!เน้นนะฮระ ในงานโฮสเทลเจ้าของจะสามารถสยบทุกสิ่ง เพราะฉะนั้น สามจุด ล่างสองบนหนึ่ง คือ เพศไม่เกี่ยว เจ้าของจงมา! ผู้ชายมีความสามารถในการสังเกตต่ำ เขาว่าไว้ว่างี้ ลองให้ผู้ชายเลือกสี อ่ะ สีฟ้าก็ได้ สัก 5 เฉด ที่มันใกล้ๆ กัน ผู้ชายมันจะงงฮระ มันจะคิดไม่ออก เห็นเป็นสีเดียวกัน ผู้หญิงจะเห็นครบเลย 5 เฉด แถมองศาการมองเห็นของนางๆยังมีองศาการมองมากกว่าเพศชาย นี่เรื่องจริงนะ แต่พวกนั้นยังไม่สำคัญเท่ากับทักษะความสามารถในการอ่านกล้ามเนื้อหน้า ที่ผู้หญิงเหนือกว่าเห็นๆ  แล้วไปรู้กันว่าตกลง พนักงานเพศไหนดี รู้จัก WORK FOR FREE ACCOMMODATION ไหม? ช่วยลดต้นทุน และการทำให้โฮสเทลสนุกได้มากมายเลยหล่ะ และข้อดีของการที่ได้พนักงานแลกเปลี่ยนแบบนี้มา คือ เขามักจะรู้แนวทางการท่องเที่ยวของพวกเขาดีกว่าพวกเรา แล้วก็ดึงดูดให้เพื่อนๆ เข้ามาพัก และเขาก็มีสิ่งที่ได้กลับไปจากแขกเหมือนกันและเขารู้ดี แบบนี้ ถ้ายังไงก็มีเตียงหรือห้องเหลือ ลองคิดถึง Working for accommodation ดูนะ ช่วยเรื่องลดรายจ่ายพนักงานได้บางส่วนเลย แต่มันก็มีข้อเสียนะ ที่เราต้องปักประกาศบอกพวกเขาให้ชัดเจนในเล่มบอกจ้า ว่าอะไรที่ควรตกลงกับพวกเขาบ้างก่อนเริ่มงานและแลกที่พักฟรี พนักงานต้องเก่งเรื่องระบบสัญลักษณ์! มันคือการบอกทิศบอกทาง หรือ เรียกอีกอย่างว่า การทำให้แขกมีชีวิตรอดปลอดภัยในการเที่ยวอยู่ในบ้านเมืองของเรา โดยไม่ชอกช้ำระกำใจ แถมบอกทางเก่งๆ สนุกๆ จะทำให้คะแนน พนักงาน และทำเล ดีดสูงขึ้นด้วยสิ อ่านแผนที่กันเป็นหรือเปล่าจ๊ะ? พนักงานโฮสเทลต้องเสียหน้ายาก ไม่โกรธง่าย อันนี้ต้องมีเลย เพราะพอเสียหน้า แทนที่จะคิดเรื่องแก้ปัญหา ก็ไปคิดเรื่องแก้ตัว งานพังฮร่ะ อย่างแขกพูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง หรือฟังการบอกแผนที่ไม่ออก ก็ต้องค่อยๆ หาทางไป เป็นใช้ภาษามือ ใช้ แอพพลิเคชั่น เล่นใบ้คำกันไปสนุกๆ ถ้าทำได้ แขกจะรู้สึกดีที่เราใส่ใจ นี่แหละ ข้อใหญ่มากกว่าภาษาเลิศซะอีก สร้าง FIRST IMPRESSION และปลดปล่อยความหงุดหงิดแขกได้ เรื่องแรกที่ต้องรู้คือ แขกเพศอะไร ถ้าแขกมาด้วยปัญหา เพศหญิงชงให้ระบาย เพศชายให้เล่าแล้วบอกทางหนีทีไล่ หลังจากนั้นแขกจะเป็นพวกเดียวกับเรานะ คะแนนพนักงานพุ่งปรี้ดดด REVIEW เด้งกันให้หน้าบาน ทักษะการปฏิเสธ มันไม่ใช่แค่งานรับแขกนะสิ งานไม่รับแขกก็มี แต่อย่างหนึ่งที่พนักงานต้องเข้าใจคือ เราต้องเข้าใจศิลปะการสื่อสารก่อน การแจ้งคือแจ้ง การบอกคือบอก การอธิบายคือการอธิบาย เพราะแบบนี้ ไม่มีหน้าที่ไหนที่ไปเกี่ยวข้องกับ คำด่านะ! กฎในโฮสเทลเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก อย่างที่เกริ่นๆ ให้ฟังอ่ะ ถ้าไม่ได้อ่านข้าม แต่เล่าให้ฟังอีกทีนะ ทำไมโฮสเทลถึงกฎเยอะมาก มากๆๆๆๆ ตอบ : เพราะโฮสเทลมีการอยู่ร่วมกันของคนจำนวนหนึ่งโดย แชร์ หรือ ใช้หลายสิ่งส่วนใหญ่ ส่วนมากร่วมกัน กฎบางข้ออย่างเช่น ห้ามนำต้นไม้ดอกไม้ขึ้นตึก ทำไมรู้ไหม? เราไม่มีทางรู้หรอกว่าใครคนไหนแพ้เกสรดอกไม้ หรือแพ้อะไรบ้าง เพราะแบบนี้ เอาตึกให้สะอาดปราศจากสิ่งแปลกปลอมมากที่สุด และพนักงานจะต้องคุมกฎเหล่านั้น แล้วจะคุมยังไง ให้แขกไม่รู้สึกว่า เขาคือนักโทษ และอยู่ในสถานกักกัน แล้วกฎอ่ะ มีอะไรบ้าง ในเล่มเลยจ้า